“พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 สานพลังภาคี ประชุมออนไลน์หารือแนวทางการจัดตั้ง Community Isolation ในวัด เน้นสื่อสารทำความเข้าใจวัดและชุมชน หวังวางระบบการดูแลพระสงฆ์ และประชาชนผู้ติด COVID-19 เชิงรุก”

             วันนี้(25ก.ค.64) เวลา 16.00 น. พระเทพเวที รก.เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม เจ้าคณะภาค 6 และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร เป็นประธานประชุมออนไลน์สานพลังภาคีรวมพลังฝ่าวิกฤติหารือแนวทางการจัดตั้ง Community Isolation ในวัด เน้นสื่อสารทำความเข้าใจวัดและชุมชน หวังวางระบบการดูแลพระสงฆ์และประชาชนผู้ติด COVID-19 เชิงรุก การนี้มีผู้แทนของหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ประกอบด้วย พระโสภณธรรมวงศ์ เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร กทม.(โมเดลการดำเนินการศูนย์พักรอในวัด) พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต และผู้จัดการโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบการมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ในระบบสุขภาพเพื่อสังคมสุขภาวะผ่านกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ สนับสนุน โดย สสส. นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนส่วนงานด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยประกอบด้วย  ทพ.ผศ.ดร.วีรศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการ สช., นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ประจักษ์วิช เล็บนาค สปสช., นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คุณยอดขวัญ รุจนกนกนาฎ สสส. นายสุขสัตน์ จิตติมณี รองผอ.สถาบันป้องกันโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายธนชีพ พีระธรรณิศร์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดร.จิราภรณ์ ศรไชย รองผอ.ด้านการพยาบาล คุณนงลักษณ์ ยอดมงคล จาก สช.  ผศ.ดร.ปฏิธรรม สำเนียง อาจารย์ มจร วข.นครสวรรค์ และคณะทำงานจาก สช. อีกหลายท่านเข้าร่วมประชุมด้วย
หลังจากที่พระเทพเวทีได้กล่าวเปิดการประชุมแล้ว ผศ.ดร.ทพ.วีรศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการ (สช.) นำประชุมสานพลังโดยแนะนำผู้เข้าร่วมประชุม หลังจากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกำหนดแนวทางในการจัดตั้ง Community Isolation ในวัด เน้นการสื่อสารทำความเข้าใจวัดและชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมและวางระบบการดูแลและใช้พื้นที่วัดเพื่อพระสงฆ์ สามเณร และประชาชนผู้ติด COVID-19 ที่ไม่มีอาการเพื่อเพิ่มปริมาณเตียงสีเขียวและลดภาระการใช้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้นำเสนอต่อมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบและกำหนดเป็นแนวปฏิบัติให้คณะสงฆ์หรือวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมจัดตั้ง Community Isolation ในวัดเพื่อวางระบบการดูแลพระสงฆ์ และประชาชนผู้ติด COVID-19 เชิกรุกต่อไป