พระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง “การจัดทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ”

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ณ ห้องรับรอง 1-2 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 เวลา 08.30-15.30 นาฬิกา
___________________________

พระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง “การจัดทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ”
จัดโดย คณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดสัมมนาเรื่อง “การจัดทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” โดยมี นายสมพร เทพสิทธา ประธานอนุกรรมาธิการ เป็นประธานเปิดการสัมมนา
ทั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาเห็นว่าพระพุทธศาสนามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคนไทยให้เป็นผู้พร้อมด้วยคุณภาพและคุณธรรม พัฒนาสังคมไทยให้มีความสุขความสงบเรียบร้อย และพัฒนาประเทศไทยให้มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้ หากแต่ประเทศไทยยังไม่เคยมีแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งที่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาเป็นเวลาช้านาน แผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นเสมือนแผนแม่บทของชาติ ในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา เมื่อประเทศไทยขาดแผนแม่บทในการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา จึงทำให้การทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาขาดความชัดเจน ไม่มีเอกภาพ ขาดการประสานงานและความร่วมมือระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัน ทำให้การทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนาไม่มีการบูรณาการระหว่างกัน ไม่มีการรวมพลังกัน ทำให้การทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนามีปัญหาและอุปสรรคหลายประการเช่นทุกวันนี้ การมีแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนามีเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีการร่วมมือประสานงานและรวมพลังในการทำให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง สถิตสถาพรคู่กับสถาบันชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป
พระราชวรมุนี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย(มจร.) ในฐานะคณะกรรมการประสานแผนงานยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา(คปพ.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะสงฆ์ได้มีจัดทำแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาระยะ 20 ปีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้มีแผนแม่บทในการทำงานของคณะสงฆ์ โดยผ่านความเห็นชอบของมส.และครม. โดยอยู่ในแผนงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งการทำแผนทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ต้องมีความชัดเจนว่า ทำแผนมาแล้วจะต้องเชื่อมกับแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เห็นต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ไม่เห็นผลในทางปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เน้นการบูรณาการกัน หากพูดแล้วทิ้ง ไม่เห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่าง จะถือว่าไม่เกิดประโยชน์..