ปฐมนิเทศพระนิสิตทุนเล่าเรียนหลวงฯ ชี้โลกยุคใหม่พระสงฆ์ต้องทำงานเผยแผ่ธรรมะมากขึ้น
นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี รองประธานโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีปฐมนิเทศพระนิสิตทุนพระราชทาน โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปีการศึกษา 2565 ที่หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม
นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี รองประธานโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีปฐมนิเทศพระนิสิตทุนพระราชทาน โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปีการศึกษา 2565 ที่หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี กล่าวรายงานว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานทุนการศึกษาถวายแด่ พระภิกษุและสามเณร ประจำปีการศึกษา 2565 ได้แก่ ทุนศึกษาบาลี ในระดับเปรียญธรรม 6 ประโยค จำนวน 53 ทุน และทุนระดับอุดมศึกษา ในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร) รวมจำนวน 157 ทุน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีถวายทุนการศึกษาพระราชทาน แด่ พระภิกษุและสามเณร ที่ได้รับพระราชทานทุนดังกล่าวไปแล้วนั้น
โครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ ได้จัดพิธีปฐมนิเทศขึ้นเป็นครั้งแรก และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง มจร มมร และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อต้องการให้พระนิสิตทุนพระราชทานที่ได้เข้ารับการถวายทุนพระราชทานดังกล่าวไปแล้ว มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของโครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการปฏิบัติในระหว่างรับทุน และเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างพระนิสิตทุนกับโครงการฯ ทุนเล่าเรียนหลวงฯ ด้วย
พระพรหมบัณฑิต กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ด้วยพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตให้การอุปถัมภ์และให้ความสำคัญในพระพุทธศาสนามาทุกยุคสมัย เพราะพระพุทธศาสนานั้นเป็นแก่นของการปกครองบ้านเมืองนับแต่อดีต ปรากฏในคัมภีร์ธรรมศาสตร์ กฏหมายตราสามดวง ในรัชกาลที่ 5 พระองค์ให้ทรงปริวรรตพระไตรปิฏกจากอักษรขอมเป็นภาษาไทยจัดพิมพ์กว่า 1,000 เล่ม เผยแผ่พุทธศาสนาโดยส่งไปทั่วโลก พระมหากษัตริย์จึงมุ่งหวังให้นำแก่นของพระพุทธศาสนา มาสร้างความสงบสุข ความร่มเย็นในสังคมไทย มุ่งหวังให้พระสงฆ์นำความผาสุกสู่บ้านเมือง เราจะทำอย่างไรที่จะเผยแผ่ธรรมะได้มากขึ้น นอกจากศึกษาก็ต้องมีจิตอาสา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงรักษา สืบสาน ต่อยอดพระพุทธศาสนา อุปถัมภ์ทุนก็เพื่อการเผยแผ่ พระสงฆ์ต้องออกมาทำหน้าที่จิตอาสา สำนึกว่า เรียนเพื่อการเผยแผ่ แบ่งปันธรรมะ
ขณะที่นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี บรรยายพิเศษตอนหนึ่ง ว่า เด็กรุ่นใหม่บริโภคแนวคิดผ่านแต่โซเชียลมีเดีย ไม่ได้มาจากพ่อแม่สอน พระสอน แต่มาจากใครไม่รู้ในโซเชียลมีเดียมาให้ความเห็น ถูกหรือผิด บิดเบือนหรือไม่ ไม่มีใครกรอง โซเชียลมีเดียเป็นข่าวที่ไม่มีใครกรอง หนังสือพิมพ์ยังมีกองบรรณาธิการช่วยกรอง โทรทัศน์ วิทยุ ก็จะมีผู้ที่ทำหน้าที่คอยกรอง คอยรับผิดชอบ แต่ในโซเชียลมีเดียทุกคนสามารถใส่ความเห็นได้หมด โลกยุคใหม่จึงตกในสถานะที่ลำบาก ไม่ได้รับการถ่ายทอดความคิดที่ถูกต้อง เรากำลังเจอความท้าทาย คงจะต้องเป็นหน้าที่ของคนไทย ให้ยึดมั่นในความเป็นไทย ในศาสนาพุทธ และถ่ายทอดความคิดลงในรุ่นต่อไป เพื่อจะได้ฝากบ้านฝากเมืองไว้คนรุ่นต่อไปได้ด้วย ต้องให้คนไทยเข้าวัดให้บ่อย ให้มาก สร้างกิจกรรมทางศาสนาให้บ่อยขึ้น ให้คนหลายช่วงอายุได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน จึงอยากฝากหลวงพ่อ หลวงพี่ ควรจัดกิจกรรมในวัด และรอบวัดให้มาก เพื่อส่งเสริมให้คนเข้าวัดโดยเฉพาะเด็ก หากปล่อยให้คนไทยไม่เข้าวัด วันหนึ่งวัดอาจจะร้าง หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเมืองไทย
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2528335/