มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

“คณะสงฆ์ไม่ทิ้งกัน” เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ เมตตาธรรมเยียวยาใจผู้ประสบอุทกภัย

 

เมตตาธรรมเยียวยาใจผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน 

 

 

 

 

วันพุธ ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค ๖ พระอุดมบัณฑิต รองเจ้าคณะภาค ๖ และคณะพระเถรานุเถระ เมตตาเดินทางมาถวายกัปปิยภัณฑ์ สมณบริโภค พร้อมให้กำลังใจพระภิกษุสามเณร และมอบชุดเครื่องอุปโภค บริโภคแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมี พระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน พร้อมพระสังฆาธิการจังหวัดเชียงราย ถวายการรับรองและอำนวยการส่งต่อกำลังใจด้วยธรรมะเยียวยาใจ ณ วัดสุทธาราม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

 

 

 

คณะสงฆ์ไม่ทิ้งกัน 
                เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม มีความห่วงใยต่อพระภิกษุ สามเณร และประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงรายนั้น ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้ประสานงานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ประจำจังหวัดต่างๆ ให้เร่งประสานระดมกำลังช่วยเหลือ ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานราชการ และภาคีเครือข่าย ซึ่งในเบื้องต้นได้สนับสนุนให้จัดตั้งโรงทานเพื่อประกอบอาหารถวายพระภิกษุสามเณรและประชาชน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ยาเวชภัณฑ์ ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และขณะเดียวกันยังเร่งประสานงานหน่วยงานราชการและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลดอีกด้วย
              การนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม, เจ้าคณะภาค ๖ (ลำปาง, เชียงราย, พะเยา, แพร่, น่าน),รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มจร   และ พระอุดมบัณฑิต รองเจ้าคณะภาค ๖ ได้ประสานให้คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่สำรวจและให้การช่วยเหลือวัดที่ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน โดยได้สำรวจข้อมูลวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้พบจำนวน ๑๖ วัด และได้สั่งการให้คณะสงฆ์ในเขตปกครองดำเนินการ ดังนี้
๑.ให้วัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ และตั้งโรงทาน
๒.ให้วัดที่ไม่ได้รับผลกระทบ เป็นศูนย์พักพิงผู้ได้รับผลกระทบ 
๓.ประสานงานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการช่วยเหลือ
โดยเตรียมจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อนำเงินจากกองทุนวัดช่วยวัด เข้าไปให้ความช่วยเหลือในการจัดตั้งโรงทาน มอบถุงยังชีพ ต่อไป
———