มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ผอ.สถาบันวิปัสสนาธุระ ย้ำปฏิบัติธรรมนิสิตคฤหัสถ์เป็นโอกาสดีเพื่อเรียนรู้ ปฏิบัติและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สู่ชาวพุทธที่เป็นอุดมคติที่แท้จริง

1,564

Loading

“ผอ.สถาบันวิปัสสนาธุระ ย้ำปฏิบัติธรรมนิสิตคฤหัสถ์เป็นโอกาสดีเพื่อเรียนรู้ ปฏิบัติและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สู่ชาวพุทธที่เป็นอุดมคติที่แท้จริง”

วันนี้(21 ธ.ค.2561) เวลา 13.00 น. ที่อาคารหอฉันชั้น 4
พระราชสิทธิมุนี วิ.,ดร. ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มจร เมตตาสอบอารมณ์กรรมฐาน แก่นิสิตนานาชาติ (ภิกษุณี แม่ชี สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา) และเวลา 19.30 น. วันเดียวกัน ท่านเจ้าคุณฯ เมตตาเทศนาธรรมแก่นิสิตจำนวน 200 รูป/คน มีใจความสรุปว่า

การปฏิบัติวิปัสสนา ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะส่งเสริมให้การรักษาศีล 5 ศีล 8 มีความมั่นคงและมีคุณภาพ ซึ่งจะแผ่ขยายวงกว้างให้เกิดความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่หยั่งรากลึกในพระพุทธศาสนา และมีอานิสงส์ตามมา คือ ‘ขันติ’ ที่จะอดทนอดกลั้นต่อสู้กับกิเลส มี ‘สติ สัมปชัญญะ’ ในการรักษาจิตตนและแก้ไขปัญหาเมื่อเจอความทุกข์และยามคับขัน ทั้งยังก่อให้เกิด ‘สมาธิและปัญญา’ ในการศึกษาเรียนรู้ และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท

ดังนั้น การที่นิสิตมีโอกาสมาปฏิบัติธรรมนั้น ถือเป็นความโชคดีที่ได้มาอยู่ยังสถาบันนี้ เพราะผู้บริหาร มจร ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วนเล็งเห็นความสำคัญอันยิ่งยวดนี้ จึงมีนโยบายสืบต่อมาให้ช่วงเวลาเดือนธันวาคมนี้ เป็นฤดูกาลปฏิบัติธรรมของทุกปี เพราะการเข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงฆ์นี้ จำต้องเรียนทั้งด้าน 1. คำสอน (คันถธุระ) และ 2. ปฏิบัติ (วิปัสสนาธุระ) จึงจะทำให้นิสิต มจร ทุกท่านสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซื่อตรงทั้งต่อตนเองและนำพาสังคมให้เกิดประโยชน์สุขสืบไป ดังคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ‘อาทิกัลยาณัง มัชเฌกัลยาณัง ปริโยสานกัลยาณัง’ แปลว่า ‘ไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด’ เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัส อันมีลักษณะดังกล่าวนี้

พระอาจารย์ก็ได้แสดงความหมายไว้ เป็นต้นว่า ที่ว่างามในเบื้องต้น ก็คือทรงแสดง ‘ศีล’ งามในท่ามกลาง ก็คือทรงแสดง ‘สมาธิ’ งามในที่สุด ก็คือทรงแสดง ‘ปัญญา’ หมายถึง ปฏิบัติให้บรรลุถึงประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ภายหน้า และประโยชน์อย่างยิ่ง คือ มรรคผลนิพพานได้นั่นเอง”

(ล่ามแปล/ผู้ถอดความ: ดร.พิณจ์ทอง แมนสุมิตร์ชัย)

ป.ล. อธิบายว่า ถ้านิสิตคฤหัสถ์ชาว มจร ใช้หลักวิปัสสนาธุระ-วิปัสสนากรรมฐาน เป็นหลักในการดำเนินชีวิตแก้ไขปัญหาของตนเองได้เช่น ทำให้มีจิตใจกล้าหาญชาญชัยเอาชนะสิ่งเสพติด เรียนหนังสือเก่ง เป็นคนดีของครอบครัว มีความสุขในสังคมชาว มจร และสังคมโลก และหรือ นำหลักกรรมฐานไปปฎิบัติได้จริงๆ ในภาวะวิกฤตดุจดั่งเช่น ในกรณีเด็กติดถ้ำ เป็นอาทิ นิสิตฆราวาสของ มจร ก็จะถือว่าเป็น ชาวพุทธที่เป็นอุดมคติ ที่แท้จริง

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.