มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

นิสิตทุนเล่าเรียนหลวง กับกิจกรรมจิตอาสาตามแนวพระราชดำริ

1,349

Loading

“นิสิตทุนเล่าเรียนหลวง กับกิจกรรมจิตอาสาตามแนวพระราชดำริ”

วันนี้ (4มี.ค.62) ที่ห้องประชุมเธียร์เตอร์ โซน D พระราชวรมุนี,รศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ได้เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “นิสิตทุนเล่าเรียนหลวง กับกิจกรรมจิตอาสาตามแนวพระราชดำริ” ท่านได้กล่าวเปิดงานและชื่นชมนิสิตทุนเล่าเรียนหลวงว่าการที่ทุกท่านได้ถูกคัดเลือกเป็นนิสิตทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามที่โครงการทุนเล่าเรียนหลวงและมหาวิทยาลัยกำหนด นับเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวท่าน ครอบครัว วัด และมหาวิทยาลัย

การจัดประชุมวันนี้ จากการถวายรายงานมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับพิธีถวายทุนเล่าเรียนหลวงพระราชทาน สำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปีการศึกษา 2561 ในวันที่ 5 มีนาคม 2562 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการถอดบทเรียนเกี่ยวกับกิจกรรมจิตอาสาตามแนวพระราชดำริที่นิสิตทุนเล่าเรียนหลวงได้ดำเนินการผ่านกิจกรรมต่างๆ

นิสิต มจร มีนวลักษณ์ 9 ประการ คือ ปฏิปทาน่าเลื่อมใส ใฝ่รู้ใฝ่คิด เป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญา มีทักษะด้านภาษา มีศรัทธาอุทิศตน รู้จักเสียสละ รู้เท่าทันสังคม สั่งสมโลกทัศน์ พัฒนานวัตกรรมเชิงพุทธ เชื่อว่าทุกท่านมีอย่างน้อยที่สุด 5 ข้อ ในฐานะรองอธิการบดีที่กำกับดูแลงานกิจการนิสิตใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ผูกคำและมีนโยบายให้นิสิตจำและนำไปปฏิบัติ ซึ่งมจร ได้ฝึกฝนพัฒนาท่านผ่านการจัดการเรียนเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนานิสิตในรูปแบบต่าง ๆ เป้าหมาย”วิชายอด จรณะเยี่ยม” จึงเป็นคุณลักษณะความนิสิต มจร ที่ต้องการของเรา

ในวันพรุ่งนี้เป็นโอกาสที่ทุกท่านจะได้แสดงนวลักษณ์9 ประการ โดยเฉพาะ 3 ข้อสำคัญ คือ ข้อ 1 ปฏิปทาน่าเลื่อมใส่ ข้อ 5 มีศรัทธาอุทิศตน และ 6 รู้จักเสียสละ ซึ่งจะทำให้ทุกท่านได้แสดงคุณลักษณะความเป็นนิสิตที่ดีตามวัฒนธรรมองค์กรนิสิตของ มจร ให้เป็นที่เจริญศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและสาธารณชนโดยทั่วไป คุณลักษณะอื่นก็สำคัญแต่การเลือกคุณธรรมมาใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะถือเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมตามกาลและเวลา เช่น บ้านเมืองเราบางยุคบางสมัยก็ใช้เรื่องพอเพียง มีวินัย สุจริต และจิตอาสา หรือความสามัคคี ปรองดอง เป็นต้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นิสิต มจร เราอาจมีความแตกต่างจากผู้ที่เรียนบาลีนักธรรมหรือฝ่ายวิปัสสนาจารย์ เพราะเราศึกษาเล่าเรียนทั้งพระพุทธศาสนาและศาสตร์สมัยใหม่ คุณลักษณะของพวกเราจะแตกต่างบ้าง และมีส่วนที่เป็นลักษณะเฉพาะ ในการการจัดการศึกษาด้านศาสนศึกษาอื่นๆเช่น การมี พรบ.พระปริยัติธรรม ถือเป็นโอกาสของทุกท่านที่สำเร็จการศึกษา จาก มจร ที่จะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของบุคลากรศาสนศึกษาทั้งนักธรรม บาลี และพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ จึงเป็นโอกาสในการทำงานรับใช้คณะสงฆ์ ชุมชนและสังคมตามอำนาจหน้าที่ที่พรบ.พระปริยัติธรรมกำหนดไว้

หลังจากนั้นได้มีการประชุมกลุ่มย่อย 2 กลุ่ม นำกระบวนกรโดย พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ผศ.ดร. หัวหน้าภาคจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว ท่านได้ชี้แจงและให้แนวทางการในการดำเนินการเพื่อประชุมกลุ่มย่อยโดยให้หลักคิดและกระบวนการทำ CCS project มาแบ่งปันกับพระสงฆ์ที่เข้ารับทุนเพื่อเป็นกรอบสำคัญในการคิดประเด็นร่วมโดยมีการระดมความคิดเห็นใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ กิจกรรมจิตอาสาที่ท่านดำเนินการ แนวปฏิบัติที่ดีที่ท่านอยากแบ่งปัน และปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ

จากการรายงานผลการประชุมกลุ่มย่อย พบว่า นิสิตทำกิจกรรมจิตอาสาที่หลากหลาย เน้นการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ และบูรณาการกับการสอนศีลธรรมเด็กและเยาวชน กิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม การส่งเสริมพุทธศิลป์ การพัฒนวัดให้เป็นพื้นที่ทางสังคมและแหล่งเรียนรู้ และบทบาทพระสงฆ์กับผู้นำด้านสุขภาวะ ซึ่งเน้นหลักเศรษฐกิจพอเพียง สุขภาวะและจิตอาสาเป็นหลักคิดสำคัญในการทำกิจกรรม

พิธีปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ได้รับความเมตตาจากพระมหาราชัน จิตฺตปาโล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เก้นประธาน ท่านอนุโมทนาชื่นชมนิสิตที่ได้ร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี การถอดบทเรียนกิจกรรมจิตอาสาและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นนิสิตทุนเล่าเรียนหลวงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขออนุโมทนาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.